(ต่อจากตอนที่ 4)
โจรครองเมือง ตอนที่ 5
......................
"ข่าง...เพื่อนคิดว่าอย่างไรละ ....จริงใหมที่เราบอกว่า ...."ความอยากจะเป็นนั้น เป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง"
"ศัย.... มันขึ้นอยู่กับคนที่ "อยากจะเป็นว่าคนนั้นอยู่ในระดับใหน ?" ถ้าอยู่ในคนชั้นกลาง ๆ อันตรายก็จะไม่มากเท่าคนชั้นสูง....ซึ่งเราหมายความว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูง....แต่ถ้าอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไปก็จะมีอันตราย รุนแรงไปอีกระดับหนึ่ง เช่น "มือปีนสไนเปอร" ฆ่าได้แม้แต่ พยาบาลตัวเล็กกที่เข้าไปช่วยเหลือ ผู้ป่วยในวัดปทุมฯ พฤติกรรมอย่างนี้ "ทั่วโลกเขาไม่ทำกัน เพราะผิดกฏหมายระหว่างประเทศ ...แต่....แต่ทหารไทยเลว ๆ ..."ทหารไทยเลว ๆ มันทำกับชาติของมัน หรือ ประชาชนที่มันต้องให้ความคุ้มครองดูแลได้".......ทหารไทย มันทำลาย ชาติของมันจนยับเยิย เพราะไอ้นายเลว ๆ ของมัน....."อยากจะเป็น"....ทหาร ไทยของชาติไทย มันทำกับประชาชนคนชาติเดียวกันอย่างนี้ ....ทั่วทั้งโลกใครจะนับถืิือ....ที่ว่านี้...เราหมายความว่า ทหารไทยชั้นเลวมันจะยิงได้ แม้แต่เด็กผู้หญิงที่เป็นอาษาสมัครตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในวัด....ที่ว่าเป็นเขตอภัยทานอะไรนั่น ...ละ...?"
"นั่น นะซิ ไม่น่าเลยนะ"
"ข่าง.... คนเสื้อแดงถูกหลอก ....หลอกเอาตัวเข้าไปกักเอาไว้ในวัด โดยมีนักมนุษย์ชนคนดีให้ความร่วมมือ หลอกให้คนเสื้อแดง เข้าไปอยู่ในวัด .....แล้วสั่งมือปีนสไนเปอร์ว่า..."ใครออกมาให้ยิงเลย" ....นายว่า ...จริงใหมละ ?....ไม่เช่นนั้น คงไม่มีการยิงคนเสื้อแดงในวัดฯตายมากมายอย่างนั้น?"
"นายว่า ใครเป็นคนสั่งอย่างนั้น"
"ใครสั่งไม่สำคัญ....แต่นายอภิสิทธิ์ ต้องรับผิดชอบ"
"นี่ละคือความรุนแรง ของความอยากจะเป็นที่อยู่ในข้าราชการทหารระดับต่ำละ"
"ถูก ต้อง ....แต่ส่วนใหญ่ ในทุกระดับชั้นมันก็อยู่ที่ ความอยากจะเป็นที่เกิดกับเวลา....คือยังไม่ถึงเวลาแล้วอยากจะเป็น....จึง เกิดการวิ่งเต้น หาเงินด้วยการซื้อ-ขายตำแหน่งกันวุ่นวายไปทั้งเมือง จนยิ่งนานวันเข้า ยิ่งจะรุกรามมากขึ้น ...และมากขึ้นทุกวัน ๆ อย่างไม่ต้องปกปิดกันดังจะเห็นได้จากข่าวในสื่อต่าง ๆ เช่นการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวง ทบวง-กรมต่าง ๆ....ฯลฯ"
"ที่ นายว่านั้นนะ มันเป็นรากเง่าของการ "ช่อราชบังหลวง" ...ถ้าตัดความอยากจะเป็นออกเสียได้ ....การฆ่ากันตายเมื่อ 4 - 5 เดือนที่ผ่านมานั้น(10 เมย. และ 19 พค.)ก็อาจจะไม่เกิดชึ้นก็ได้"
"ความอยากจะเป็น ... นี่ นะ ....ร้ายกาจมากนะ ......อนากจะเป็นเศรษฐีมีเงินมีทองมาก ๆ ...อยากจะเป็นเจ้าของที่ดิน มีที่ดินมาก ๆ เช่น กรณี เขาสอยดาว ....อยากจะเป็นกษัตริย์ปกคองประเทศ จึงฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าญาติพี่น้อง เพื่อให้ตนเป็นกษัตริย์ได้สดวกขึ้น เร็วขึ้น ....ตามที่เรียนให้ทราบไปแล้ว ....ฯลฯ เป็นต้น ....."
"ก็ เพราะความร้ายกาจนี่ละ เราจึงจำเป็นที่จะต้องนำมาพูดกัน เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ นายกรัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพ นำกำลังทหารออกไปฆ่าประชาชนอีก ตามที่เป็นมาไม่รู้ว่ากี่ครั้ง กี่หนมาแล้ว....ครั้งที่ร้ายแรงที่สุด คือ เมื่อ พุทธศักดิ์ราช 2535 .... คุณจำรอง หลอกนักศึกษาออกไปตายเสียไม่รู้ว่าเท่าไร ต่อ เท่าไร"
"ศัย....ทำไมคุณจำรองจึงทำอย่างนั่นละ ?"
"คนนี้ โผล่หัวออกมาทีไร บ้านเมืองวุนวาย...ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย ทุกที่"
"ทำไมถีงเป็นอย่างนั่นละ...ศัย ?"
"เพราะ คน ๆ นี้ ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นเผด็จการณืเต็มรูปแบบ ....เมื่อมันเห็น เผ็ดการจะถูกประชาชน หรือ กลุ่มหารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พวกมัน ออกมาเพื่อการเปลี่ยนแปลง ....ไอ้คน ๆ นี้ จะออกมาปกป้องผลประโยนย์ของมัน ตาม ที่หัวหน้ามันสั่งทันที....เข้าใจหรือยังละเพื่อน"
"นายว่าอย่างนี้ ก็หมายความว่า มันมีนายเหนือหัวคอยสั่งการอยู่ข้างหลังนะซี ?"
"แน่นอน....แต่ตอนนี้ผ่านไปก่อน ....ย้อนกับไป เรื่อง ชาติ เกียรติ วินัย และ กล้าหาญกันใหม่ดีกว่านะ ?"
" เอา....ว่าต่อไป"
..............
Mon,Nov 01,2010
เมืองท่ากรุงเทพฯ
กลับ จากทะเลครั้งนี้ มีเรื่องแปลกให้คิดมากมาย เป็นไปในเรื่องที่จะยืนยัน ว่าเรื่องที่ผมเคยพูดว่า "นายอภิสิทธิ์ และคณะที่ฆ่าประชาชน จะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลโลก" น่าจะใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว เมื่อ เมื่อมีข่าวว่า "Mr,Robert Armsterdum" กำลังทำเรื่องยื่นต่อศาลอาญาระหว่างประเทศที่กรุงเฮกประเทศเนเธอรแลนด์ไป แล้ว ชุดแรก ชุดที่สองที่สมบูรณ์กว่า เอกสารนั้นจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน ไม่กี่สัปดาข้างหน้านี้.......ผมเคยพูดไปแล้วว่า ....."งานนี้ อภิสิทธิ์หนาวแน่" .....
ผม เองรู้สึกหมั่นใส้ คนทีเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นข้ออ้างเพื่อประโยชน์ในการทางการเมืองมาก .....เพราะคนพวกนี้ ....นี่ละที่ทำให้ชาติบ้านเมือง...."ย่อยยับ"....ผู้คนบากเจ็บล้มตายมากมาย เสียหายทั้งชื่อเสียงและเงินทองของชาติ คือ เงินภาษีอากรของประชาชน.....คุณ ๆ ทั้งหลายอย่าอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์กันให้มากนัก .....ใครดีใครชั่ว ก็ว่ากันเป็นคน ๆ ไป.....ในราชวงค์ทุกราชวงค์เหมือนกันทั่วโลก ที่มีทั้งคนดีคนชั่ว กษัตริย์ในยุโรป คนในราชวงค์ของประเทศใหญ่ ๆ เช่นอังกฤษ หรือ ฝรั่งเศส ที่ชั่วได้ถูกนำตัวไปตักหัวเสียก็มากมาย .....ของไทยก็มี ....เช่น "หม่อมไกรศร" และพวกที่ตักสินความไม่เป็นธรรม อย่างที่สมัยนี้เราเรียกว่า ...."สองมาคราฐาน" ....รัชกาลที่ 3 พระองค์ท่านสั่งให้ถอดฐานันฏรศักดิ์ ออกจาก "กรมพระ" แล้วนำตัวไปประหารเสียด้วยท่อนจัน (คนชี้ถูก-ชี้ผิด สมัยนี้ก็เช่นกัน สุดท้ายแล้ว ทุกท่านก็จะต้องถูก..."ตัดหัว"...เช่นกัน...ท่านอย่านึกนะว่า "ขันทีเฒ่า" จะช่วยท่านได้ เพราะตัวมันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า "จะเอาตัวรอดหรือไม่ ?")
"อย่า เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ และ/หรือ ราชวงค์จักรีมาอ้างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากนัก.....เพราะถ้ามากไปจะกลาย เป็น หมิ่นพระบรมเดชานุภาพไป"
ให้ เอาตัวอย่าง ...."ประฃาชนคนญี่ปุ่น"....ที่เขาจะไม่พูดถึงสถาบันพระจักรพรรดิ.....ผู้ใด ใครพูดถึงจะถูกกล่าวหาว่า "อาจเอื้อม" ในสายตาของคนทั่วไป ด้วยเหตุที่ ไม่ยุ่งกันระหว่าง "ประชาชนคนธรรมดา กับ สมมติเทพ" ดังกล่าราชวงค์ "เมจิ" ของจักรพรรดิ์ญิ่ปุ่น จึงอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาได้เป็นร้อย ๆ ปี (ประมาณ 6-7 ร้อยปี) โดยไม่มี การกบฏล้มร้างรางราชวงค์ หรือเปลี่ยนราชวงค์ใหม่ แบบ ..."ไท ไท"
ของ ไทยนะหรือ ครับ ...ดูที่กรุงศรีอยุธยา ที่มีกษัตริย์ปกครอง 34 พระองค์ในจำนวนนี้ มีพระมหากษัตริย์ที่ถูกแย่งชิงราชสมบัติ และ ถูกปรงพระชนต์ถึง 11 พรกะองค์......นั่นก็เพราะ ..."ความอยากจะเป็น"....ทั้งนั้น
เหมือน กัน ....การอยากจะมีบ้านใหญ่โต....อยากจะขี่รถราคาแพง ...แต่งงานให้ใหญ่โต หรูหราฟู่ฟ่า ....แม้แต่งานเกี่ยวกัยการตายทั้งหมด ก็ทำกันจนเกินความจำเป็น เสียเงินเสียทองมากมาย ...ฯลฯ ....และเพื่อให้เหมือนคนอื่นเขา จึงต้อง..."ช่อราชบังหลวง"....นั่นหมายความว่า ....
"สังคมไทยเป็นตัวบีบบังคับให้คนไทย ช่อราชบังหลวง"
กัปตันอดิศัย พะลายานนท์ ให้ไว้ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา 0735
เพราะฉะนั้น การจะแก้การช่อราชบังหลวง ต้องแก้ที่ "ค่านิยมขนบธรรมเนียม ประเพณี"
...................
สคส. 2554
ใน ศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2554 นี้ ขออำนวนพรให้ เพื่อน ๆ สามสมอ -จปร. , นักวิชาการ...ครูอาจารย์ สื่อมวลชน...ประชาชน....วีระบุรุษประชาชนคนเสื้อแดง ....แดงทั้งแผ่นดิน ...และ แกนนำคนเสื้อแดงทุกท่าน.... ที่ท่านได้ร่วมกันต่อสู้ เพื่อนำประชาธิปไตยมาใช้ปกครองประเทศ แทนระบอบ เผด็จการซ่อนรูปในปัจุบัน เพื่อประโยชน์ของชาิติบ้านเมือง และประชาชนทั้งปัจจุบัน และอนาคต .....ฯลฯ ...ตลอดจนท่านที่เปิด Websiteนี้ทุก ๆ ท่าน ..... จงประสบแต่ความสุข ความเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย และ สัมฤทธิผลในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ.
จากผม.
กัปตันอดิศัย พะลายานนท์
2 มกราคม 2554. @ 0635 ตามเวลาในประเทศไทย
.........................................