ตอนที่ 10
ดดูตรงนี้เป็นตัวอย่าง
ความสำเร็จในการก่อกบฏ ในครั้งแรก ของทหารและประชาชน (ค.ศ.1789 -1791) คือเมื่อฝ่ายกบฏ ได้เข้าทำลายคุกบาสตินญ์ ทำให้พวก ขุนนางและเจ้านายในวัง ก็เชื่อว่าจะต้องเกิดเรื่องรุนแรงขึ้นเลื่อย ๆ มากกว่านี้ เพราะตามหัวเมืองต่าง ๆ พวกชาวนาก็เข้าปล้นบ้านข้าราชการที่ขาดความเป็นธรรม.......คือ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนในการตัดสินความ หรือ/คือ ผู้ชนะในคดีความคือพรรคพวกของรัฐบาลเท่านั้น ...ผู้ที่พ่ายแพ้ในคดีความ คือ ผู้ที่ไม่ใช่พรรคพวกของรัฐบาล และ ขัดผลประโยชน์กับคนในคณะรัฐบาลทั้งนั้น.....(ในประเทศไทยใกล้ตรงนี้เข้าไปทุกทีแล้ว ....นะ ...จะบอกให้ ...ดังจะเห็นได้จาก การตัดสินความ ที่มี....คนในกลุ่มเสื้อแดง ...เป็นจำเลย เช่น ในคดี ชิมไปบ่นไป เป็นต้น )ราษฏรไม่มีสิทธิร้องเรียนใด ๆ ทั้งสี้น ทุกอย่างขึ้นกับขบวนการที่ไม่ยุติธรรม ที่รูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นสัตว์เดรฉานที่รัฐบาลตั้งขึ้นในยุคนั้น เพื่อรีดนาทาเร้น ประชาชน ....เพื่อกอบโกยเงินภาษีอากรของประชาชนผู้ที่หาเช้ากินค่ำ ...กันอย่างย่ามใจเป็นจำนวนมหาศาล ได้เอาภาษีอากรของพวกรากหญ้าไปแบ่งกันใช้อย่างฟุ้งเฟื้อ ฟุ่มเฟือย ภายในราชสำนัก ใครโวย ก็ใช้ขบวนการยุติธรรม...ที่ไม่ยุติธรรมที่ตั้งขึ้นจาก...อำนาจป่าเถื่อน....ที่ทรงอิทธิพล หรืออยู่เหนือกฏหมาย.....พิพากษาให้มีความผิด จบชีวิตการเป็นประชาชนชาวฝรั่งเศสในคุกบาสตินญ์.....ด้วย ....กฏหมายเจ็ดชั่วโฆต .....คือ ....มึงไม่ได้ทำ แต่ พ่อมึงทำ.....ใครคัดด้าน และบอกว่า พ่อผมก็ไม่ได้ทำ เพราะพ่อผม ตายไปนานแล้ว.... ไอ้พวกจังไรในขบวนการยุติธรรม...เหล่านั้นมันก็จะบอกว่า ...ถึงพ่อมึงไม่ได้ทำ แต่พ่อมึงสอนไว้.... รู้หรือ เปล่า ?... เพราะฉะนั้นกู้ต้องจับมึงเข้าคุกบาส์ตินญ์...อย่างนี้ก็มี....และก็มีมาจนถึงทุกวันนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ .....แต่ผม กัปตัน อดิศัย พะลายานนท์ คิดว่า ในฝรั่งเศสคงไม่มีแล้ว...นะครับท่าน...แต่ที่อื่นไม่ทราบ....ที่ผมคิดว่าในฝรั่งเศสไม่น่าจะมีแล้วเพราะ.....ทั้งข้าราชการการเมือง และ ข้าราชการประจำ คงจะรู้จักพิษสงของ...เครื่องกิโยติน...มาแล้วเป็นอย่างดี คงไม่กล้าอีกแล้ว.....แล้วก็ร้องว่า...กลั่วแล้ว ๆ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว......เหมือน ๆ กับของไทยในสมัยที่ทหาร ไม่ทำหน้าที่ของทหารที่ดีในบางส่วน หันไปเล่นการเมืองกันหมด ถึงเวลา ฝึก ไม่ฝึก ถึงเวลารบ ไม่รบ มัวแต่แสวงหา ความสุข ตามอย่างในราชสำนัก จนทหารที่ดีทำอะไรไม่ได้ แม้แต่จะยิงปืนใหญ่ เมื่อข้าศึกมาประชิดกำแพงเมืองยังยิงไม่ได้เลย เพราะยิงไปแล้ว จะไปรบกวนนางในราชสำนัก ซึ่งกำลังแสวงหาความสุข เป็น ...SEX..หมู่กันอยู่....คงจะมีบางคู่ ....ที่ยังไม่สำเร็จกิจ อยู่ก็มี ....แต่พอทหารยิงปืนใหญ่ ทำให้เสียความรู้สึกจึงสั่งห้ามไม่ให้ทหารยิงปีนใหญ่ โดยอ้าวว่าหูจะแตก ....พระยาตาก ได้โต้แย้งไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า .-
หูแตก กับ กรุงแตก อะไรมันจะสำคัญ ร้ายแรง และ เจ็บปวด กว่ากัน?
เรื่องราวก็เล่าลือกันมาจนบัดนี้ว่า พระพุทธเจ้าหลวง หรือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในราชวงค์จักรีได้ทรงเขียนไว้ คล้ายจะให้คนไทยทุกคนได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ ๆ คนไทยทุกคน ที่พึงมีต่อชาติบ้านนั้น มันคือ อิสรภาพ และ เอกราชของชาติไทย ไม่ใช่ การหาความสุขส่วนตัวในชีวิตประจำวัน จนแยกไม่ออกว่าอะไรสำคัญ และอะไรไม่สำคัญต่อชาติบ้านเมือง ......ทำกันมากเกินไปแล้ว ...รู้กันบ้างหรือเปล่าละ? พวงท่านนะ...ทำกันจนบ้านเมืองฟังพินาจยับเยินหมดแล้ว พวกท่านรู้กันบ้างหรือเปล่าละ ?....พวกท่านมัวแต่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัว ...แสวงหาผลประโยชน์ หาความสุขใส่ตนเอง...หาอำนาจ .....แสวงหาอำนาจ กันจนลืนนึกถึงว่ามันจะนำมาซึ่งความ ...ฉิบหายล่มจมของบ้านเมือง ....ใครห้าม ใครไม่ให้ความร่วมมือ เพราะเขารักชาติบ้านเมือง กลัวจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ....พวกท่าน ก็ร่วมหัวกันสร้าง สภานะการณ์ขึ้นมาใส่ร้ายป้ายสีเขา จนคนดี ๆ อยู่ไม่ได้ ....สิ่งที่พวกท่านได้รับมีอยู่อย่างเดียวคือ ......ความสะใจ....ของพวกท่าน ....แต่ความสะใจของพวกท่าน.... คือการนำมาซึ่งความพินาจย่อยยับของชาติบ้านเมือง ....ทำไมพวกท่านไม่คิดกันบ้าง....ทำไมไม่คิด ...หัวหงอกแล้วนะ....ยังไม่มีความคิดกัน ...เลว....เลวมากนะ..จะบอกให้....
ร. 5 พระองค์ได้ทรงนิพนธ์ไว้ว่า เจ้านาย และผู้ดีก็พากันสวิงสวาย (สวิงสวาย คือ ดัดจริต) กลัวอะไรต่อมิอะไรตั้งแต่ฟ้าร้องเป็นต้น เรื่องที่จะเล่าต่อไปถึงเรื่องยิงปืนต้องบอกศาลา มีในที่อื่นคล้ายกัน เช่น จดหมายเหตุหลวงอุดม และมีคำเล่าถึงเรื่อง หม่อมเพ็ง และหม่อมแพน ซึ่งเป็นคนขวัญอ่อนกลัวปืน
สมควรแล้วที่เสียกรุงให้พม่าเมื่อปี พ.ศ. 2310
ข้าศึกมาประชิดติดพระนครแล้ว ยังไม่คิดจะป้องกันต่อสู้เพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชของชาติ ...ยังหลงระเริงอยู่กับ สุรา นารี พาชี กิฬาบัตร กันอยู่ ....มันก็ฉิบหาย ล่มจมเท่านั้นจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้.....เข้าใจหรือยังละ....เข้าใจกันหรือยัง ?
ความไม่ยุติธรรมในสังคมตามที่เรียนให้ทราบข้างบน คือ พฤติกรรมและการกระทำของ... ทรราช ....แต่จริง ๆ แล้ว ....ทรราช.... นั้นไม่ใช่ว่าจะเก่งแต่กระทำความชั่วเท่านั้น ...อาจจะเก่งในการกระทำความดีก็ได้ ... สำคัญอยู่ที่ขบวนการยุติธรรม...ถ้าขาดความเป็นธรรม คือ ...ไม่ชอบด้วยเหตุผลเสียแล้ว นั่นคือ...ความเลวทั้งนั้น..
ความเป็นธรรมในสังคมคนเมือง หรือ/คือ ...นิติรัฐ ..สำคัญมากนะ ..... ถ้าขาดความเป็นธรรม คือ มีแต่การ การกดขี่ขมเหง ลังแกประชาชนทั่วไป...นั่นคือ หนทางที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดสงความกลางเมืองในรูปแบบต่าง ๆ ตามกาละ เทสะ ที่อาจจะเป็นไปได้ ดังเช่นการเกิดกบฏ ในฝรั่งเสศ เมื่อ วันที่ 14 กรกฏาคม ค.ศ.1789 .....
ความรุนแรงในการทำร้ายและปล้นสดมพวกขุนนาง ข้าราชการ (ข้าราชการไทยก็ระวังไว้นะ)มีมากขึ้น ๆ ทุกที....จนอยู่ไม่ได้ต้องหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนมากไปร่วมชุมนุมกันอยู่ตามรุ่มแม่น้ำไรน์(Rhine) พวกเหล่านี้เรียกตัวเองว่า พวกลี้ภัยการเมืองรุ่นที่หนึ่ง (Emigres) ส่วนพระเจ้าหลุยส์ที่16 ก็ต้องยอมจำนนกับพวกกบฏ ได้เสด็จจากราชวังแวซายส์ไปประทับที่พระราชวังดุยเลอรี่ส์(Tuileries)
.สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนุญได้มาประชุมกัน และลงมติให้ยกเลิกสิทธิพิเศษต่าง ๆ ของพวกบาดหลวง(พระ) และพวกขุนนางข้าราชการ การเสียภาษีต้องเสียเท่า ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใด กฏหมายต่าง ๆ ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ได้รับการยกเลิก ชาวฝรั่งเศสได้รับสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน โดยคำแนะนำของ ลาฟาแย็ตต์ นอกจากนั้นก็ได้ลงมติให้มีคำสั่งประกาศ แสดงสิทธิ์ของมนุษย์ (Declaration of Rights of Man) ซึ่งนักปฏิวัติและนักปกครองในเวลาต่อมา ได้ยึกถือเป็นแบบอย่าง ประกาศสิทธิ์ของมนุษย์ มีใจความดังต่อไปนี้คือ .-
1. คนเราเกิดมาเป็นอิสระ มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ความแตกต่างในสังคน ย่อมมีขึ้นได้ต่อเมื่อได้ทำประโยชน์ให้แก่สาธารณะ
2. อำนาจอธิปไตยมาจากปวงชนทั่วไป ไม่มีคณะหรือกลุ่มบุคคลไดใช้อำนาจได้ หากอำนาจนั้นไม่ได้เกิดจากปวงชนเท่านั้น
3. เสรีภาพคือการอนุญาติให้ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยไม่กระทบกระเทือนถึงคนอื่น
4. กฏหมายคือ เจตจำนงของคนทั่วไป พลเมืองทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้มีส่วนในการกำหนดเจตจำนงนั้นด้วนตนเอง หรือโดยอาศัยผู้แทนของตน.
มาถึงตรงนี้ เห็นท่าจะต้องเร่งลัด และ ย่อความให้สั้นลงไปอีก เพื่อให้จบไว้ก่อน นะเพื่อนนะ (เพื่อน ๆ สามสมอ) ซึ่งเบื้องหลังการกบฏใหฝรั่งเศสนั้นยังมีอีกมาก ดังเช่น เรื่อง สร้อยคอเพชร และ เรื่องการตายของหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ในฝรั่งเศสขณะนั้น คือ พรรค จาโคแบง(Jabebin) ซึ่งมี มาราท์เป็นหัวหน้า และถูกแทงตายในห้องน้ำ เมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม ค.ศ. 1793 (Marat) , โรเบสปีแอร์(Robespierre) ,คนนี้ ถูกจับเข้าเครื่อง กิโยติน ตัดหัว เมื่อ 27 กรกฏาคม ค.ศ.1794 เป็นต้น และเหตุการที่ไม่มีอะไรดีขึ้นหลังจาก การกบฏในฝรั่งเศสแล้ว จนได้ นโปเลียนมาปกครองประเทศแทน...แล้ว...เมื่อ
วันที่ 20 มกราคม ค.ศ.1793 สภาได้ลงมติ ให้สำเร็จโทษ พระเจ้าหลุยที่ 16 ด้วยคะแนนเสีง 361 ต่อ 360 ด้วยเครื่อง กิโยติน(Guilloutine)
.ในวันที่ 21 มกราคม ค.ศ.1793.....
ส่วนพระนางแมรี ได้ถูกสภาสั่งให้สำเร็จโทษเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1793 ขณะมีพระชนมายุ 37 ปี ....นอกจากนั้นพระราชโอรส และพระราชธิดาของพระองค์ทั้งสองก็ถูกสำเร็จโทษด้วย กิโยติน ในคราวเดียวกันนั้นทั้งหมด....รวมความว่า การกบฏในครั้งนี้ มีพวก ในราชสำนักของพระเจ้าหลุยส์ ที่16 พร้อมทั้งข้าราชการ การเมือง และ ข้าราชการประจำถูกประหารชีวิตด้วยเครื่อง กิโยติน ไปเป็นจำนวนทั้งหมด 1366 คน ...เรียกว่าถอนรากถอนโคนกันให้หมดเมืองไปเลย นะครับท่าน....
นี่ละคือตัวอย่างที่ดีสำหรับพวกเรา เพื่อพวกเราจะได้เดินไปในทางที่ถูก ..ไม่หลงทาง ออกนอกลู่นอกทางกันไปจนใหญ่โต ไปกันมากกว่านี้ อีก ทั้งที่ขณะนี้ก็มากอยู่แล้ว มากจนน่าเกียจ จนทั่วโลกเขามองไทยไปในทางลบหมดแล้ว และทำท่า จะเสีย สิทธินอกอาณาเขต เอานะ ระวังกันไว้ให้ดีก็แล้วกันนะ...จะบอกให้ ...
**********************